Wednesday, May 27, 2015

ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน

ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน   “เราจะตอบโต้ หากถูกโจมตี
โดย ...สตีเฟน เลนด์แมน   จาก  โกลบอล   รีเสิร์ช

วันที่ 26 พฤษภาคม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้พาดหัวข่าวว่า “จีนประกาศแผนทางการทหารในการป้องกันทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นจริง”  โดยแถลงในอย่างเป็นทางการในสมุดปกขาวที่ออกโดยสำนักงานข่าวสารแห่งชาติเรื่อง  “ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน”  และได้ให้คำมั่นว่า  “จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กรรักษาความปลอดภัยระหว่างประเทศ”   ย้ำถึง “หลักการเบื้องต้นในการป้องกันตนเองและเตรียมการตอบโต้”  โดยแถลงว่าจีนไม่ได้ก้าวร้าว  แต่จะตอบโต้หากถูกโจมตีก่อน

จีนมุ่งเน้นในหลักการ “ชนะในสงครามเฉพาะแห่ง”  ให้ความร่วมมือกับนานาประเทศในการรักษาความปลอดภัย    จะเน้น "ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของจีนในต่างประเทศ"     จากประเด็นหลักสี่ประการในความปลอดภัยของดินแดนในปกครอง    ทั้งในมหาสมุทร   อวกาศ   ขอบเขตทางไซเบอร์ และอำนาจทางนิวเคลียร์  กองทัพเรือจีนจะทำการปกป้องทั้งบริเวณชายฝั่งและในน่านน้ำในทะเลเปิด     ความปลอดภัยในด้านไซเบอร์ต้องเป็นเรื่องแรก    ปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับการติดตั้งอาวุธในอวกาศ   และให้คำมั่นว่าจะปกปกป้องทรัพย์สินของตนในด้านอวกาศด้วย    และสัญญาว่าจะไม่แข่ง ขันในด้านอาวุธนิวเคลียร์กับประเทศอื่น       โดยคำนึงถึงสันติภาพและความมั่นคงของโลกเป็นด้านหลักไม่มีความต้องการในการขยายอำนาจทางการทหาร

จีนต่อต้านลัทธิครองความเป็นเจ้าและอำนาจทางการเมืองในรูปแบบอื่นๆ  จีนต้องเผชิญกับการคุกคามในหลายรูปแบบที่มีความซับซ้อน        รวมไปถึงการปรากฏขึ้นของกองกำลังที่ผิดกฎหมายในเขตปก ครองของจีนและขบวนการภายนอกที่มีส่วนร่วมในกรณีทะเลจีนใต้   อ้างถึงการมีส่วนเข้าร่วมของสหรัฐ อย่างชัดเจน     จีนพิจารณาถึงการยั่วยุและไม่อาจยอมรับได้ในกรณีที่เครื่องบินบินสำรวจของสหรัฐในทะเลจีนใต้ เพนตากอน ได้อนุมัติให้เครื่องบิน P-8A-โพไซดอน บินสอดแนมในบริเวณพื้นที่พิพาทเป็นประจำ     วันที่ 25 พฤษภาคม   หนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ ของรัฐได้แถลงเตือนอย่างตรงๆว่า  

“ถ้าสหรัฐคิดว่ามันมีความสำคัญ(ต่อสหรัฐ)ที่จีนจะต้องจะยับยั้งการเคลื่อนไหวทุกชนิดแล้ว    สงครามระหว่างจีนกับสหรัฐในทะเลจีนใต้ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”   จีนไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากรบในการตอบโต้กับการยั่วยุของสหรัฐ   น่านน้ำของจีนย่อมเป็นของจีน    ในข่าวกล่าวว่าจีนจะไม่อด ทนต่อการแทรกแซงของสหรัฐในสิ่งที่ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของสหรัฐ     จีนให้ความสำคัญต่อการเพิ่มบทบาทของอเมริกาในย่านเอเชีย-แปซิฟิค เป็นอย่างมาก       โดยเฉพาะนโยบายฟื้นฟูกองทัพและมาตรการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่นที่วอชิงตันให้ความร่วมมือสนับสนุนอยู่...หนังสือปกขาวระบุว่า  ”พลังที่ต่อต้านจีนไม่เคยละเว้นเลยสักวันที่จะกระตุ้นให้เกิดการปฏิวัติสี*ขึ้นในจีน (*การต่อต้านรัฐบาลโดยใช้ สี หรือ ดอกไม้ เป็นสัญญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว)  ” 

ความเสี่ยงในการเกิดสงครามนั้นมีความเป็นไปได้จริง    วุฒิสมาชิกสายเหยี่ยวของสหรัฐมีความต้อง การและยอมรับนโยบายต่อต้านจีนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ      จดหมายของพวกเขาที่มีถึงรัฐมนตรีกลาโหม แอชตัน คาร์เตอร์..มีใจความว่า    เป็นความเสี่ยงที่สมควรพิจารณาเพื่อผลประโยชน์อันยั่งยืนของสหรัฐรวมไปถึงพันธมิตรของเรา...  พวกเขาต้องการท้าทายจีนในโลกที่คิดว่าเป็นของตน   ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะก่อสงคราม    ด้านหนึ่งก็กล่าวประณามกองทัพจีนที่เคลื่อนไหวในอาณา เขตของตนเอง     อีกด้านหนึ่งก็ละเลยที่จะกล่าวถึงภัยคุกคามของฐานทัพสหรัฐ  อาวุธนิวเคลียร์ และ และกำลังพลหลายหมื่นนายที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนจีน     ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามต่อความปลอดภัยของจีนโดยตรง

อาทิตย์ที่ผ่านมา  กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิคของสหรัฐ (PACOM)  ได้เชิญผู้แทนทางการทหารจาก 22 ประเทศในภูมิถาคเอเซีย/แปซิฟิค ไปประชุมที่ฮาวายโดยไม่มีตัวแทนจากประเทศจีน    ในที่ประชุมได้พิจารณาถึงยุทธศาสตร์ทางการทหาร โดยเฉพาะกองกำลังสะเทินบกสะเทินน้ำ     ยุทธวิธี  และสมรรถนะในทางการรบ    และมีการสาธิตแสดงการจู่โจมของนาวิกโยธินอเมริกันให้ชมด้วย
วอชิงตันมีความต้องการที่จะสนธิกำลังในการปฏิบัติการของหน่วยสะเทินบกสะเทินน้ำ     ของบรรดาชาติต่างๆในภูมิภาคเอเซีย/แปซิฟิค   เพื่อรวมกำลังในการต่อต้านความเข้มแข็งและอิทธิพลของจีนที่นับวันจะเติบโตขึ้นในภูมิภาคนี้    แอชตัน  คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐกล่าวว่า   วอชิงตันจะขยายกำลังควบคุมในขอบมหาสมุทรแปซิฟิค      รวมไปถึงหมู่เกาะสแปรตลี่ ที่จีนอ้างสิทธ์ในการเป็นเจ้าของและกำลังก่อ สร้างโครงการเกาะเทียม (เกาะที่สร้างขึ้นโดยการถมทะเล) บนแนวปะการัง

พลเรือเอก แฮรี่ แฮริส ผู้บัญชาการกองเรือภาคพื้นแปซิฟิคได้กล่าวหาปักกิ่งว่า สร้างกำแพงใหญ่บนทรายในพื้นที่พิพาททั้งหมด 1.5 ตารางไมล์  เขายืนยันว่า    “ขอบเขตและแนวทางการสร้างเกาะจากฝีมือมนุษย์นั้นจะก่อให้ เกิดปัญหาที่ใหญ่หลวงให้กับแรงบันดาลใจของจีน”   “ไม่ว่าจีนจะทำอย่างไร ก็จะเป็นตัวบ่งชี้ของภูมิภาคไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางเผชิญหน้าหรือการให้ความร่วมมือ”  แฮริส กล่าว
อเมริกาเสี่ยงในการเข้าร่วมก่อสงครามเมื่อก่อนหน้านี้   ไม่ได้เรียนรู้อย่างถ่องแท้ต่อความพ่ายแพ้ในสงครามเกาหลีและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เลย จีนอ้างสิทธิ์(ที่สามารถโต้แย้งได้)จะก่อสร้างในเขตน่านน้ำของตน.จีนกล่าวว่า “ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหนานชา(หมู่เกาะ 
สแปรตลี่) และน่านน้ำรอบๆ ”   วอชิงตันไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในดินแดนส่วนที่มิใช่ของตน      

นางหัว จุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาแถลงว่าอเมริกาควรจะหลีกเลี่ยงการปลุกปั่นเพื่อดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงและสันติภาพของภูมิภาคนี้ เธอย้ำว่า จีนจะปกป้องอธิปไตยในดิน แดนของจีน    ไม่มีอำนาจที่ก้าวร้าวใดๆจะมาเปลี่ยนแปลงได้    ในระยะยาว..การกระทำที่เกินขอบเขตของสหรัฐอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าโดยตรงกับจีน     ความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งนั้นเป็นจริงขึ้น
กำจร....  แปล    

Sunday, April 5, 2015

เยเมน 1

เยเมนตอบโต้การรุกรานของซาอุดิ อารเบีย ด้วย “จะกวาดล้างราชอาณาจักรอาหรับ  เปลี่ยนแผนที่ของภูมิภาคเสีย ใหม่”

สมาชิกอาวุโสของขบวนการ  อันซารุลเลาะห์     ได้กล่าวเตือนว่าการทำร้ายประเทศของเขาจากความก้าวร้าวของซาอุดิอารเบีย    จะส่งผลให้ราชอาณาจักรอาหรับแห่งนั้นจบสิ้นลง    และเกิดการ และเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในภูมิภาคน

สถานีโทรทัศน์ อัล อาราม  ที่ออกอากาศเป็นภาษาอารบิค   ได้ยกเอาคำพูดของ  นัสเรดดิน อาเมอร์  สมาชิกคณะกรรมการกระจายเสียงของขบวนการ  อันซารุลเลาะห์  ที่ได้ให้สัมภาษน์ไว้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ว่า  ประชาชาติเยเมนจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงแผนที่ของภูมิภาคนี้  และ  เราจะให้คำตอบแก่ ซัลมาน บิน อับเดล อาซิส กษัตริย์ซาอุดิ  ในสนามรบซึ่งเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน
เขาได้กล่าวย้ำว่า    ระบอบปกครองของตระกูล  อัล ซาอุด ได้ทำการโจมตี เพื่อขัดขวางเยเมนมิให้เป็นอิสระจากการครอบงำของกลุ่มปกครองซาอุดิ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โมฮัมหมัด อัล บาคีติ  สมาชิกอาวุโสด้านการเมืองของขบวนการ อันซารุลเลาะห์   ได้กล่าวเตือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสัญญานของการรุกรานเยเมน    เขากล่าวว่า “การรุกรานทางภาคพื้นดินจะได้รับการต่อต้านอย่างแข็งขัน”     
สาเหตุที่เราไม่ได้ทำการตอบโต้ใดๆต่อความก้าวร้าวของ ซาอุดิ ในระยะ 5 วันที่ผ่านมานั้น  เนื่อง จากว่าเราต้องการให้ชาติอาหรับทั้งหลายที่ได้เข้าร่วมการรุกรานได้ไตร่ตรองถึงการกระทำของพวกเขาและให้หยุดยั้งการโจมตี”    และยังย้ำต่อไปว่า    “จากนี้เป็นต้นไป  ทุกอย่างจะแตกต่างจากเดิม อย่างสิ้นเชิง

อัล บาคิตี ได้อธิบายว่า    การที่ซาอุดิ และพันธมิตร  รุกรานเยเมนเป็นปัญหาวิกฤตทางศีลธรรม  เขากล่าวว่า “อย่างไรก็ตามที่ประชุมของกลุ่มประเทศอาหรับได้สรุปผลด้วยการสร้างวิกฤตอย่างร้ายแรง ” เขาเน้นว่า  ประชาชนชาวเยเมนมีความปักใจในพลังของตนที่จะต่อสู้และเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะในที่สุด

วันเสาร์ที่ผ่านมา   สมาชิกอาวุโสของขบวนการ  อันซารุลเลาะห์    ได้กล่าวเตือนด้วยความอดกลั้นให้ยุติการรุกรานที่กระทำต่อเยเมนโดยทันที      มิฉะนั้นจะทำการโจมตีตอบโต้ในดินแดนของซาอุดิ   
อับเดล  มอนเน็ม อัล กูราชชีร์   สมาชิกคณะกรรมการสูงสุดของขบวนการ อันซารุลเลาะห์ ได้ให้สัม ภาษณ์แก่สำนักข่าว  เอฟ เอ็น เอ   ว่า “ขบวนการ อันซารุลเลาะห์ ขอสัญญาว่าจะโค่นกลุ่มปกครองในรัฐอาหรับต่างๆที่ให้การสนับสนุนพวกก่อการร้าย      หาก ซาอุดิ อารเบีย ยังคงแสดงความก้าวร้าวรุนแรงต่อประชาชนเยเมนผู้ถูกกดขี่      นักรบของ อันซารุลเลาะห์   จะใช้ปฏิบัติการพลีชีพเพื่อตอบโต้โค่นล้มกลุ่มปกครองของซาอุดิ  ในซาอุดิอาระเบียเอง ”     เขากล่าวย้ำว่าอิสราเอลและตระกูลซาอุดิ ร่วมมือกัน   โดยซาอุดิ อาระเบีย รับคำสั่งจากวอชิงตันละ เทล อาวิฟ  

สาเหตุหลักในการรุกรานของ ซาอุดิ        เกิดจากนโยบายที่ล้มเหลวในการสนับสนุนประธานาธิบดี มันซอร์ ฮาดี  ที่หลบหนีไปและกลุ่มทัคฟิรี    และเริ่มไม่มีความหวังกับหุ่นของตน   และย้ำว่า กอง  ทัพของประชาชนเยเมนจะตอบโต้ด้วยการบดขยี้ซาอุดิผู้รุกราน
ขณะนี้ซาอุดิ อาระเบีย ยังทิ้งระเบิดโจมตีเยเมนเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน   พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

กลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซียทั้งห้า ได้แก่  ซาอุดิ อาระเบีย  สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์(UAE)  บาห์เรน  การ์ตาร์   และคูเวต     อียิปต์แนวร่วมของอิสราเอล   ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สหรัฐอเมริกาก็ได้ร่วม ทำสงครามกับเยเมนในวันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้ด้วย
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา  ได้สั่งให้ความช่วยเหลือด้านการส่งกำลังบำรุงเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการ ทางการทหารครั้งนี้ด้วย    นาง เบอร์นาเดท  มีฮาน  โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ  ได้แถลงเมื่อคืนวัน พุธ ก่อนหน้านี้

เธอกล่าวว่า สหรัฐไม่ได้เข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหารโดยตรงในเยเมน     แต่ได้ตั้งหน่วยงานด้าน การทหารและการข่าวขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนและร่วมมือกับซาอุดิ อาระเบีย

By Fars News Agency    March 31, 2015    


Saturday, February 21, 2015

โครงการคลองขุดในนิคารากัว

 คลองนิคารากัวจะทำให้ประเทศ BRICS เข้มแข็งขึ้น

 เยคัธรินา   บลิโนวา

โครงการคลองขุดนิคารากัว    จะลดทอนอิทธิพลของสหรัฐฯในลาตินอเมริกาและการควบคุมเส้นทางลัดมหาสมุทร   ส่งผลให้ประเทศภาคี บริคส์(BRICS / Brazil   Russia India China South africa)   ส่งให้จีนและรัสเซียโดดเด่นในภูมิภาคนี้

โครงการคลองขุดนิคารากัวได้จุดประกายให้แก่วงการสนทนากันอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก  ซึ่งหวั่นวิตกกับเส้นทางเชื่อมต่อมหาสมุทรนี้จะเป็นตัวทำลายสถานะทางภูมิศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ อเมริกาในทวีปอเมริกาใต้    และจะเป็นการลดทอนอิทธิพลของสหรัฐฯในซีกโลกตะวันตก

นักวิเคราะห์ฟันธงว่า  หากโครงการใหม่นี้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์  จะเป็นการเปลี่ยนเส้นทางของ สินค้าจากมหาสมุทรหนึ่งสู่อีกมหาสมุทรหนึ่งจะสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเอเซียกับอเมริกา ใต้    พวกเขาเห็นว่าประเทศที่จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากโครงการนี้ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวเนซูเอลลา บราซิล อาร์เจนตินาและรัสเซีย   ในขณะเดียวกันเส้นทางใหม่นี้น่าจะทำให้ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ปานามา และเม๊กซิโก ถดถอยลง

แน่นอน..โครงการนี้จะเป็นคู่แข่งขันของคลองปานามา   ที่เป็นเส้นทางน้ำที่เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิคและแอตแลนติคที่ได้ใช้บริการกันมานานเป็นเสมือนท่อถ่ายเทสินค้าและการเดินเรือ     มันเป็นเส้นทางเลือกที่ดีกว่าคลองปานามาเอง      คลองนี่จะมีความยาว 172 ไมล์ หรือประมาณ 278 กิโลเมตรและมีความลึก 90 ฟุต หรือประมาณ 27.6 เมตร  สามารถรับเรือขนาดระวางบรรทุกขนาด 400,000 ตัน  ให้ผ่านไปได้ตลอด     ทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นทางใหม่นี้จะสามารถลดค่าขนส่งได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์  สำหรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่แล่นระหว่างอเมริกา เอเชีย และยุโรป    ในขณะที่คลองปานามาสามารถรับเรือที่มีระวางบรรทุกได้แค่ 60,000 ตัน   และหลังจากมีการปรับปรุงใหม่ก็สามารถรับได้แค่ 130,000 ตันเท่านั้น

บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่าแนวคิดเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นกลุ่มบริษัทจีน-นิคารากัว HKND (Hong Kong  Nicaragua Canal Development Investment Co Ltd)   ได้ทำสัญญาค้ำประกันโครงการนี้ในราคา 50,000 ล้านเหรียญ    และสนองตำแหน่งงานถึง 50,000 ตำแหน่ง   และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2020

ตั้งแต่ปี 1904สหรัฐฯ ได้ควบคุมเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคกับแอตแลนติคไว้โดยสิ้น เชิง   โดยประกาศให้ปานามาเป็นดินแดนในอารักขา     เป็นที่สังเกตุว่าระหว่างปี 1912 และ  1933    นิคารากัวถูกยึดครองโดยกองกำลังอเมริกัน     เพื่อป้องกันมิให้ชาติอื่นๆมาสร้างเส้นทางอื่นมาแข่งขันกับคลองปานามาที่เชื่อมมหาสมุทรที่อเมริกาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์      แม้ว่าประเทศปานามาจะได้คืนสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของคลองเมื่อ เดือนธันวาคม 1999  และคืนที่ตั้งฐานทัพสหรัฐให้แก่อำนาจท้องถิ่นแล้วก็ตาม      แต่สหรัฐยังเป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างแท้จริง ในเขตคลองและยังคงถูกจับตามองอยู่อย่างใกล้ชิดจากวอชิงตัน   

เชื่อแน่ว่า...สหรัฐฯ จะต้องแสดงความไม่พอใจต่อโครงการนี้   และจัดอยู่ในประเภทที่น่าเคลือบแคลง คลังสมองของสหรัฐฯจะต้องสร้างแผนการอะไรขึ้นมาสักอย่าง      เพื่อใช้อ้างอิงเกี่ยวโยงเกี่ยวกับเรื่อง ”ความโปร่งใส” และ ”ประชาธิปไตย” ในนิคารากัว   เช่น  หลักการพื้นฐานของตลาดเสรี   การก่อกวน  โดยยั่วยุให้ประชาชนคัดค้านและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม   เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมานากัวได้แถลงอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2515ว่า   “ เอกอัครราชทูตมีความเป็นห่วงในเรื่องการขาดแคลนข้อมูลและความโปร่งใสที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายๆด้านของโครงการ”  และ “ในทุกๆขั้นตอนของโครงการเราเร่งให้มีการดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับ  เรื่องเงินลงทุน..ความเป็นไปได้  และปัญหาสิ่งแวดล้อม      ต้องเปิดโอกาสให้แก่บริษัทก่อสร้างต่างๆทั้งสัญชาติอเมริกาและสัญชาติอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมในการประมูลงานและก่อสร้าง  ใช้หลักในการแก้ไขปัญหาเรื่องของทรัพย์สินและด้านอื่น ๆ - จะต้องกระทำอย่างเปิดเผยและโปร่งใส "

เมื่อเร็วๆนี้   มีความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและนิคารากัวได้กระชับความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันประเทศ     ผู้สันทัดกรณีได้คาดการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของมานากัวในด้านการก่อสร้างคลอง     มีข้อสังเกตุคือระหว่างการมาเยือนนิคารากัวของนาย เซอร์ไก  ชอยกู  รัฐมนตรีป้องกันประเทศของรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้    นิคารากัวเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงระหว่างชาติด้วยการทำสัญญาแบบทวิภาคีด้านความร่วมมือทางด้านเทคนิค และการทหาร   โดยเฉาะอย่างยิ่งเรือรบของรัสเซียได้รับอนุญาตให้ใช้ท่าเรือต่างๆในอเมริกาใต้ได้

การก่อสร้างคลองนิคารากัวใหม่ จะสามารถยกระดับภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคนี้ให้เกิดความสมดุลมากขึ้น    จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มประเทศ บริคส์  โดยเฉพาะจีนและรัสเซียในระดับชี้ขาดทางยุทธศาสตร์แห่งภูมิภาค    ในขณะเดียวกันก็เป็นการคุกคามผลประโยชน์ของสหรัฐฯโดยตรงทั้งด้านการเมืองและ เศรษฐกิจ   เป็นการทลายการครอบงำที่มีมาอย่างยาวนานในซีกโลกตะวันตก