คลองนิคารากัวจะทำให้ประเทศ BRICS เข้มแข็งขึ้น
เยคัธรินา
บลิโนวา
โครงการคลองขุดนิคารากัว
จะลดทอนอิทธิพลของสหรัฐฯในลาตินอเมริกาและการควบคุมเส้นทางลัดมหาสมุทร ส่งผลให้ประเทศภาคี บริคส์(BRICS / Brazil Russia India China
South africa)
ส่งให้จีนและรัสเซียโดดเด่นในภูมิภาคนี้
โครงการคลองขุดนิคารากัวได้จุดประกายให้แก่วงการสนทนากันอย่างกว้างขวางในโลกตะวันตก ซึ่งหวั่นวิตกกับเส้นทางเชื่อมต่อมหาสมุทรนี้จะเป็นตัวทำลายสถานะทางภูมิศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ อเมริกาในทวีปอเมริกาใต้ และจะเป็นการลดทอนอิทธิพลของสหรัฐฯในซีกโลกตะวันตก
นักวิเคราะห์ฟันธงว่า
หากโครงการใหม่นี้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ จะเป็นการเปลี่ยนเส้นทางของ
สินค้าจากมหาสมุทรหนึ่งสู่อีกมหาสมุทรหนึ่งจะสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเอเซียกับอเมริกา ใต้ พวกเขาเห็นว่าประเทศที่จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากโครงการนี้ได้แก่
จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวเนซูเอลลา บราซิล อาร์เจนตินาและรัสเซีย
ในขณะเดียวกันเส้นทางใหม่นี้น่าจะทำให้ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ปานามา
และเม๊กซิโก ถดถอยลง
แน่นอน..โครงการนี้จะเป็นคู่แข่งขันของคลองปานามา ที่เป็นเส้นทางน้ำที่เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิคและแอตแลนติคที่ได้ใช้บริการกันมานานเป็นเสมือนท่อถ่ายเทสินค้าและการเดินเรือ
มันเป็นเส้นทางเลือกที่ดีกว่าคลองปานามาเอง คลองนี่จะมีความยาว 172 ไมล์ หรือประมาณ
278 กิโลเมตรและมีความลึก 90 ฟุต หรือประมาณ 27.6 เมตร สามารถรับเรือขนาดระวางบรรทุกขนาด 400,000 ตัน ให้ผ่านไปได้ตลอด
ทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นทางใหม่นี้จะสามารถลดค่าขนส่งได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่แล่นระหว่างอเมริกา
เอเชีย และยุโรป
ในขณะที่คลองปานามาสามารถรับเรือที่มีระวางบรรทุกได้แค่ 60,000 ตัน และหลังจากมีการปรับปรุงใหม่ก็สามารถรับได้แค่
130,000 ตันเท่านั้น
บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่าแนวคิดเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นกลุ่มบริษัทจีน-นิคารากัว HKND (Hong Kong Nicaragua
Canal Development Investment Co Ltd) ได้ทำสัญญาค้ำประกันโครงการนี้ในราคา 50,000 ล้านเหรียญ
และสนองตำแหน่งงานถึง 50,000 ตำแหน่ง และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2020
ตั้งแต่ปี 1904สหรัฐฯ
ได้ควบคุมเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคกับแอตแลนติคไว้โดยสิ้น เชิง โดยประกาศให้ปานามาเป็นดินแดนในอารักขา เป็นที่สังเกตุว่าระหว่างปี 1912 และ 1933 นิคารากัวถูกยึดครองโดยกองกำลังอเมริกัน เพื่อป้องกันมิให้ชาติอื่นๆมาสร้างเส้นทางอื่นมาแข่งขันกับคลองปานามาที่เชื่อมมหาสมุทรที่อเมริกาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
แม้ว่าประเทศปานามาจะได้คืนสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของคลองเมื่อ เดือนธันวาคม
1999
และคืนที่ตั้งฐานทัพสหรัฐให้แก่อำนาจท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่สหรัฐยังเป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างแท้จริง ในเขตคลองและยังคงถูกจับตามองอยู่อย่างใกล้ชิดจากวอชิงตัน
เชื่อแน่ว่า...สหรัฐฯ
จะต้องแสดงความไม่พอใจต่อโครงการนี้
และจัดอยู่ในประเภทที่น่าเคลือบแคลง คลังสมองของสหรัฐฯจะต้องสร้างแผนการอะไรขึ้นมาสักอย่าง เพื่อใช้อ้างอิงเกี่ยวโยงเกี่ยวกับเรื่อง ”ความโปร่งใส”
และ ”ประชาธิปไตย” ในนิคารากัว เช่น หลักการพื้นฐานของตลาดเสรี การก่อกวน
โดยยั่วยุให้ประชาชนคัดค้านและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมานากัวได้แถลงอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี
2515ว่า “
เอกอัครราชทูตมีความเป็นห่วงในเรื่องการขาดแคลนข้อมูลและความโปร่งใสที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายๆด้านของโครงการ” และ “ในทุกๆขั้นตอนของโครงการเราเร่งให้มีการดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับ
เรื่องเงินลงทุน..ความเป็นไปได้ และปัญหาสิ่งแวดล้อม ต้องเปิดโอกาสให้แก่บริษัทก่อสร้างต่างๆทั้งสัญชาติอเมริกาและสัญชาติอื่นๆ
ได้มีส่วนร่วมในการประมูลงานและก่อสร้าง ใช้หลักในการแก้ไขปัญหาเรื่องของทรัพย์สินและด้านอื่น
ๆ - จะต้องกระทำอย่างเปิดเผยและโปร่งใส "
เมื่อเร็วๆนี้ มีความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและนิคารากัวได้กระชับความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันประเทศ
ผู้สันทัดกรณีได้คาดการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของมานากัวในด้านการก่อสร้างคลอง
มีข้อสังเกตุคือระหว่างการมาเยือนนิคารากัวของนาย เซอร์ไก ชอยกู
รัฐมนตรีป้องกันประเทศของรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้ นิคารากัวเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงระหว่างชาติด้วยการทำสัญญาแบบทวิภาคีด้านความร่วมมือทางด้านเทคนิค
และการทหาร โดยเฉาะอย่างยิ่งเรือรบของรัสเซียได้รับอนุญาตให้ใช้ท่าเรือต่างๆในอเมริกาใต้ได้
การก่อสร้างคลองนิคารากัวใหม่ จะสามารถยกระดับภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคนี้ให้เกิดความสมดุลมากขึ้น จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มประเทศ บริคส์ โดยเฉพาะจีนและรัสเซียในระดับชี้ขาดทางยุทธศาสตร์แห่งภูมิภาค ในขณะเดียวกันก็เป็นการคุกคามผลประโยชน์ของสหรัฐฯโดยตรงทั้งด้านการเมืองและ เศรษฐกิจ เป็นการทลายการครอบงำที่มีมาอย่างยาวนานในซีกโลกตะวันตก