Wednesday, May 27, 2015

ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน

ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน   “เราจะตอบโต้ หากถูกโจมตี
โดย ...สตีเฟน เลนด์แมน   จาก  โกลบอล   รีเสิร์ช

วันที่ 26 พฤษภาคม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้พาดหัวข่าวว่า “จีนประกาศแผนทางการทหารในการป้องกันทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นจริง”  โดยแถลงในอย่างเป็นทางการในสมุดปกขาวที่ออกโดยสำนักงานข่าวสารแห่งชาติเรื่อง  “ยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีน”  และได้ให้คำมั่นว่า  “จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กรรักษาความปลอดภัยระหว่างประเทศ”   ย้ำถึง “หลักการเบื้องต้นในการป้องกันตนเองและเตรียมการตอบโต้”  โดยแถลงว่าจีนไม่ได้ก้าวร้าว  แต่จะตอบโต้หากถูกโจมตีก่อน

จีนมุ่งเน้นในหลักการ “ชนะในสงครามเฉพาะแห่ง”  ให้ความร่วมมือกับนานาประเทศในการรักษาความปลอดภัย    จะเน้น "ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของจีนในต่างประเทศ"     จากประเด็นหลักสี่ประการในความปลอดภัยของดินแดนในปกครอง    ทั้งในมหาสมุทร   อวกาศ   ขอบเขตทางไซเบอร์ และอำนาจทางนิวเคลียร์  กองทัพเรือจีนจะทำการปกป้องทั้งบริเวณชายฝั่งและในน่านน้ำในทะเลเปิด     ความปลอดภัยในด้านไซเบอร์ต้องเป็นเรื่องแรก    ปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับการติดตั้งอาวุธในอวกาศ   และให้คำมั่นว่าจะปกปกป้องทรัพย์สินของตนในด้านอวกาศด้วย    และสัญญาว่าจะไม่แข่ง ขันในด้านอาวุธนิวเคลียร์กับประเทศอื่น       โดยคำนึงถึงสันติภาพและความมั่นคงของโลกเป็นด้านหลักไม่มีความต้องการในการขยายอำนาจทางการทหาร

จีนต่อต้านลัทธิครองความเป็นเจ้าและอำนาจทางการเมืองในรูปแบบอื่นๆ  จีนต้องเผชิญกับการคุกคามในหลายรูปแบบที่มีความซับซ้อน        รวมไปถึงการปรากฏขึ้นของกองกำลังที่ผิดกฎหมายในเขตปก ครองของจีนและขบวนการภายนอกที่มีส่วนร่วมในกรณีทะเลจีนใต้   อ้างถึงการมีส่วนเข้าร่วมของสหรัฐ อย่างชัดเจน     จีนพิจารณาถึงการยั่วยุและไม่อาจยอมรับได้ในกรณีที่เครื่องบินบินสำรวจของสหรัฐในทะเลจีนใต้ เพนตากอน ได้อนุมัติให้เครื่องบิน P-8A-โพไซดอน บินสอดแนมในบริเวณพื้นที่พิพาทเป็นประจำ     วันที่ 25 พฤษภาคม   หนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ ของรัฐได้แถลงเตือนอย่างตรงๆว่า  

“ถ้าสหรัฐคิดว่ามันมีความสำคัญ(ต่อสหรัฐ)ที่จีนจะต้องจะยับยั้งการเคลื่อนไหวทุกชนิดแล้ว    สงครามระหว่างจีนกับสหรัฐในทะเลจีนใต้ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”   จีนไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากรบในการตอบโต้กับการยั่วยุของสหรัฐ   น่านน้ำของจีนย่อมเป็นของจีน    ในข่าวกล่าวว่าจีนจะไม่อด ทนต่อการแทรกแซงของสหรัฐในสิ่งที่ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของสหรัฐ     จีนให้ความสำคัญต่อการเพิ่มบทบาทของอเมริกาในย่านเอเชีย-แปซิฟิค เป็นอย่างมาก       โดยเฉพาะนโยบายฟื้นฟูกองทัพและมาตรการรักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่นที่วอชิงตันให้ความร่วมมือสนับสนุนอยู่...หนังสือปกขาวระบุว่า  ”พลังที่ต่อต้านจีนไม่เคยละเว้นเลยสักวันที่จะกระตุ้นให้เกิดการปฏิวัติสี*ขึ้นในจีน (*การต่อต้านรัฐบาลโดยใช้ สี หรือ ดอกไม้ เป็นสัญญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว)  ” 

ความเสี่ยงในการเกิดสงครามนั้นมีความเป็นไปได้จริง    วุฒิสมาชิกสายเหยี่ยวของสหรัฐมีความต้อง การและยอมรับนโยบายต่อต้านจีนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ      จดหมายของพวกเขาที่มีถึงรัฐมนตรีกลาโหม แอชตัน คาร์เตอร์..มีใจความว่า    เป็นความเสี่ยงที่สมควรพิจารณาเพื่อผลประโยชน์อันยั่งยืนของสหรัฐรวมไปถึงพันธมิตรของเรา...  พวกเขาต้องการท้าทายจีนในโลกที่คิดว่าเป็นของตน   ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะก่อสงคราม    ด้านหนึ่งก็กล่าวประณามกองทัพจีนที่เคลื่อนไหวในอาณา เขตของตนเอง     อีกด้านหนึ่งก็ละเลยที่จะกล่าวถึงภัยคุกคามของฐานทัพสหรัฐ  อาวุธนิวเคลียร์ และ และกำลังพลหลายหมื่นนายที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนจีน     ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามต่อความปลอดภัยของจีนโดยตรง

อาทิตย์ที่ผ่านมา  กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิคของสหรัฐ (PACOM)  ได้เชิญผู้แทนทางการทหารจาก 22 ประเทศในภูมิถาคเอเซีย/แปซิฟิค ไปประชุมที่ฮาวายโดยไม่มีตัวแทนจากประเทศจีน    ในที่ประชุมได้พิจารณาถึงยุทธศาสตร์ทางการทหาร โดยเฉพาะกองกำลังสะเทินบกสะเทินน้ำ     ยุทธวิธี  และสมรรถนะในทางการรบ    และมีการสาธิตแสดงการจู่โจมของนาวิกโยธินอเมริกันให้ชมด้วย
วอชิงตันมีความต้องการที่จะสนธิกำลังในการปฏิบัติการของหน่วยสะเทินบกสะเทินน้ำ     ของบรรดาชาติต่างๆในภูมิภาคเอเซีย/แปซิฟิค   เพื่อรวมกำลังในการต่อต้านความเข้มแข็งและอิทธิพลของจีนที่นับวันจะเติบโตขึ้นในภูมิภาคนี้    แอชตัน  คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐกล่าวว่า   วอชิงตันจะขยายกำลังควบคุมในขอบมหาสมุทรแปซิฟิค      รวมไปถึงหมู่เกาะสแปรตลี่ ที่จีนอ้างสิทธ์ในการเป็นเจ้าของและกำลังก่อ สร้างโครงการเกาะเทียม (เกาะที่สร้างขึ้นโดยการถมทะเล) บนแนวปะการัง

พลเรือเอก แฮรี่ แฮริส ผู้บัญชาการกองเรือภาคพื้นแปซิฟิคได้กล่าวหาปักกิ่งว่า สร้างกำแพงใหญ่บนทรายในพื้นที่พิพาททั้งหมด 1.5 ตารางไมล์  เขายืนยันว่า    “ขอบเขตและแนวทางการสร้างเกาะจากฝีมือมนุษย์นั้นจะก่อให้ เกิดปัญหาที่ใหญ่หลวงให้กับแรงบันดาลใจของจีน”   “ไม่ว่าจีนจะทำอย่างไร ก็จะเป็นตัวบ่งชี้ของภูมิภาคไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางเผชิญหน้าหรือการให้ความร่วมมือ”  แฮริส กล่าว
อเมริกาเสี่ยงในการเข้าร่วมก่อสงครามเมื่อก่อนหน้านี้   ไม่ได้เรียนรู้อย่างถ่องแท้ต่อความพ่ายแพ้ในสงครามเกาหลีและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เลย จีนอ้างสิทธิ์(ที่สามารถโต้แย้งได้)จะก่อสร้างในเขตน่านน้ำของตน.จีนกล่าวว่า “ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหนานชา(หมู่เกาะ 
สแปรตลี่) และน่านน้ำรอบๆ ”   วอชิงตันไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในดินแดนส่วนที่มิใช่ของตน      

นางหัว จุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาแถลงว่าอเมริกาควรจะหลีกเลี่ยงการปลุกปั่นเพื่อดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงและสันติภาพของภูมิภาคนี้ เธอย้ำว่า จีนจะปกป้องอธิปไตยในดิน แดนของจีน    ไม่มีอำนาจที่ก้าวร้าวใดๆจะมาเปลี่ยนแปลงได้    ในระยะยาว..การกระทำที่เกินขอบเขตของสหรัฐอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าโดยตรงกับจีน     ความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งนั้นเป็นจริงขึ้น
กำจร....  แปล